มารู้จัก วิธีการเลี้ยงกบคอนโด

มารู้จัก วิธีการเลี้ยงกบคอนโด



การลงทุนประกอบธุรกิจเลี้ยงกบ ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่เกษตรกรหลายพื้นที่ให้ความสนใจและนิยมหันมาเลี้ยงกบกันมากขึ้น นอกจากเกษตรกรจะลงทุนสร้างบ่อลอยหรือบ่อซีเมนต์ เลี้ยงกบแล้ว เกษตรกรบางรายยังใช้ภูมิปัญญาพัฒนา วิธีเลี้ยงกบ เป็นการลดต้นทุน ด้วยการเลี้ยงกบในขวดน้ำ และเลี้ยงกบคอนโด เพียงแต่จัดหายางรถสิบล้อเก่า ๆ มาวางซ้อนเป็นชั้น ๆ ใส่น้ำนำลูกกบไปปล่อยเลี้ยง ใช้เวลาเลี้ยง ให้อาหารประมาณ 2 เดือน กบก็จะโตขายได้ราคาดี
สั่งสินค้าได้ที่  :  ร้านบ้านโชคฟาร์ม

ผู้ที่สนใจจะเลี้ยงกบไว้ข้างบ้านนั้น แนะนำให้เลี้ยงกบคอนโด นอกจากจะไม่สิ้นเปลืองน้ำ ใช้พื้นที่ไม่มากแล้ว กบที่เลี้ยงในคอนโดจะโตเร็วกว่ากบที่เลี้ยงในบ่อลอยที่ต้องใช้เวลานานถึง 3 เดือน แต่กบคอนโดใช้เวลา 2 เดือนก็จะโตเต็มที่ขายได้ 3 – 4 ตัวต่อ 1 กก. และสร้างคอนโด 1 ชุด สามารถเลี้ยงกบได้ 100 ตัว สำหรับอาหารที่นำมาใช้เลี้ยงกบ ตามปกติก็มีอาหารกบขายอยู่ตามท้องตลาด แต่เพื่อประหยัดต้นทุน ก็ทดลองนำอาหารปลาดุกมาเลี้ยงกบได้ หรือผสมกล้วยน้ำว้าในอาหารให้กบกิน กบก็จะโตได้ตามปกติและยังให้น้ำหนักดีอีกด้วย
วิธีการเลี้ยงกบคอนโด
1. วัสดุอุปกรณ์
1.1 ยางรถ (ขนาด รถแทรกเตอร์ เลี้ยงได้100 ตัว,ขนาด รถ 10 ล้อ เลี้ยงได้ 50 ตัว, ขนาด 6 ล้อ เลี้ยงได้ 30 ตัว,ขนาด 4 ล้อ เลี้ยงได้ 20 ตัว)
1.2 ทรายหยาบ
1.3 ตะแกรง
1.4 กบพันธุ์
1.5 ปูนขาว
1.6 อาหารกบแท้ หรือปลาดุก
1.7 ถาดวางอาหาร
2. วิธีการเลี้ยง
2.1 เริ่มต้นด้วยการหาพื้นที่เลี้ยงกบ(แสงแดดส่องรำไร)
2.2 ใช้ทรายหยาบถมหนาประมาณ 6 นิ้ว
2.3 เสร็จแล้วให้ใช้ตะแกรงรองพื้น
2.4 แล้วเทหินเกล็ดทับตะแกรง หนาประมาณ 3 นิ้ว
2.5 วางคอนโด (ยางรถ 3 เส้น ซ้อนทับขึ้นไป)
2.6 ปล่อยกบลงคอนโด
2.7 นำตะแกรงปิดปากคอนโดของกบ ด้านบน เพื่อป้องกันกบกระโดดออกไป
3. อาหารกบและการให้อาหาร
3.1 ใช้อาหารปลาดุกเม็ดใหญ่ ให้กบกินทุกเช้า เย็น โดยวางอาหารไว้ในถาดด้านล่างคอนโด
3.2 อาหารเสริมเป็นผักบุ้งหั่นฝอย ให้กิน ทุก 2 วัน/ครั้ง
3.3 ใส่น้ำ 2 คอนโด (ชั้นที่ 1 และ 2) ถ่ายน้ำทุก 3 วัน
3.4 ล้างหินและอุปกรณ์ให้สะอาด ล้างด้วยจุลินทรีย์ผลไม้
3.5 ใช้ไฟส่อง ล่อแมลงให้กบกิน เป็นอาหารเสริม
3.6 เลี้ยงไปประมาณ 20 วัน ให้แยกขนาดกบเล็ก-ใหญ่
4. พันธุ์กบที่นำมาเลี้ยง เป็นกบคอนโด เป็นกบพันธุ์ ที่หาซื้อได้ตามฟาร์มทั่วๆไปครับ
5. ระยะเวลาการเลี้ยงกบประมาณ 2 เดือน


ข้อดี
1. เลี้ยงในบริเวณบ้าน หรือมีพื้นที่จำกัดได้ดี และดีกว่าการเลี้ยงแบบใส่ขวดพลาสติก
2. ลงทุนต่ำ กว่าเลี้ยงในบ่อปูน
3. ให้อาหารกบได้ง่ายและทั่วถึง ไม่เปลืองอาหาร
4. ควบคุมโรคได้ง่าย ถ่ายน้ำสะดวก และใช้น้ำน้อยกว่า
5. เหมาะกับผู้เริ่มทดลองเลี้ยงเพื่อศึกษา ไม่หวังผลกำไร


ข้อเสีย
1. ยากต่อการสังเกตและดูแล หากเลี้ยงในปริมาณมากๆ
2. ไม่เหมาะกับการเลี้ยงจริงจังเชิงพาณิชย์ ที่ต้องมีปริมาณผลผลิตต่อเดือนสูง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การเพาะพันธุ์ปลาดุก ไม่ยากอย่างที่คิด!

ไปดูการเลี้ยงปลาบึกด้วยเศษอาหาร ต้นทุนต่ำ ได้กำไรสูง ที่ลำลูกกา

การเพาะพันธุ์ปลาสวาย