ปลาบู่ตลาดมีความต้องการสูง พ่อค้ารับซื้อไม่อั้น!

เลี้ยงปลาบู่ ต้นทุนถูก อาหารไม่แพง

ปลาบู่ เป็นพันธุ์ปลาที่หาได้ง่ายตามแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านวังใหญ่ เป็นปลาที่สามารถนำมาเลี้ยงและจำหน่ายเป็นรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี เนื่องจากปลาบู่เป็นปลาที่มีเนื้อนุ่ม รสชาติดี เมนูที่นิยมรับประทานคือ ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว ปลาบู่ทอดสามรส ฯลฯ ในพื้นที่บ้านวังใหญ่มีเกษตรกรที่ทำการเลี้ยงปลาบู่เพื่อจำหน่าย โดยมีวิธีการดังนี้

สั่งสินค้าได้ที่  :  ร้านบ้านโชคฟาร์ม

การเลี้ยงปลาบู่ในบ่อดิน
การเตรียมบ่อ
-บ่อเก่าควรสูบน้ำให้แห้งแล้วตากบ่อประมาณ 10 – 15 วัน พร้อมทั้งโรยปูนขาวให้ทั่วบ่อ ในอัตราส่วนปูนขาว 1 กก. ต่อพื้นที่ 10 ตารางเมตร เพื่อให้แสงแดดทำลายเชื้อโรคที่มีอยู่
-จากนั้นนำพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ปลานิลมาปล่อยในบ่อประมาณ 20 คู่ (เพื่อให้ลูกปลานิลเป็นอาหารปลาบู่)

การเตรียมพันธุ์ปลาบู่
-นำปลาบู่ที่จับได้จากแหล่งน้ำในธรรมชาติขนาดประมาณ 8-10 ตัว/กก. ต้องเป็นปลาที่แข็งแรง ไม่มีบาดแผล

การเลี้ยงและการให้อาหาร
-เมื่อสังเกตว่ามีลูกปลานิลในบ่อมากพอสมควรก็ให้นำปลาบู่ที่จับได้มาปล่อยได้เลย (อาจจะทำการทยอยปล่อยก็ได้ แต่ไม่ควรเกิน 500 ตัว/บ่อ (บ่อขนาด 8 x 8 เมตร )
-การให้อาหารปลาบู่ อาหารหลักจะเป็นปลาสับจำนวนประมาณ 10 กก./วัน นอกจากนี้ปลาบู่จะกินลูกปลานิลในบ่อเป็นอาหารเสริม
-ใช้เวลาในการเลี้ยงและดูแลประมาณ 6-8 เดือน ก็สามารถนำไปจำหน่ายได้

ข้อควรระวัง
-ต้องคอยสังเกตน้ำในบ่อ อย่าให้เน่าเสีย ต้องทำการเปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอ
-ปลาบู่มีลักษณะนิสัยตื่นตกใจง่าย ดังนั้นน้ำในบ่อควรมีลักษณะขาวขุ่นหรือทำที่หลบซ่อนให้กับปลา
ข้อดีของการเลี้ยงปลาบู่
-ปลาบู่มีราคาสูง
-ตลาดมีความต้องการสูง
-พันธุ์ปลาหาง่าย
-มีความแข็งแรง ทนต่อโรคโรค

Cr. http://updatedlifestye.com/?p=494