“พัชรนันท์ ขาวงาม เจ้าของ ‘ณดลฟาร์ม’ จ.สุรินทร์ เลี้ยงหอยปัง-หอยขมในวงบ่อซีเมนต์เป็นอาชีพเสริม




“พัชรนันท์ ขาวงาม เจ้าของ ‘ณดลฟาร์ม’ จ.สุรินทร์ เลี้ยงหอยปัง-หอยขมในวงบ่อซีเมนต์เป็นอาชีพเสริม รายได้ดีเว่อร์ พ่อแม่พันธุ์คู่ละ 50 บาท ขายเป็นกิโลกรัมมากสุด 100 บาท พร้อมเผยเคล็ดลับเลี้ยงในวงบ่อซีเมนต์อาหารธรรมชาติไม่มี  เสริมด้วยแร่ธาตุอาหารของกุ้งก้ามแดง ช่วยให้โตใหญ่สมบูรณ์ได้ดี”


เจาะอาชีพเสริมของเจ้าหน้าที่ อบต.
          “คนมีพื้นที่น้อยก็เลี้ยงหอยปัง-หอยขมได้ มีงานประจำก็ทำได้ไม่ยุ่งยาก เป็นได้ทั้งรายได้เสริมและเป็นรายได้หลักได้ด้วย แค่คอยสังเกตเรื่องน้ำอย่าให้เน่า อาหารให้วันละครั้งช่วงเย็นก็พอค่ะ”
            คำเปิดบทสนทนาของ  คุณจู-พัชรนันท์ ขาวงาม   เจ้าหน้าที่ อบต. ที่ถึงแม้ตนเองจะมีงานประจำทำแต่หลังจากเลิกงานก็ยังมีรายได้เสริมด้วยการเลี้ยงหอยปัง หอยขม โดยเจ้าตัวมองว่าเลี้ยงง่าย มีคนบริโภคตลอด ที่สำคัญทุกวันนี้หอยปังหาตามธรรมชาติได้ยากเหลือเกิน จึงตัดสินใจเลี้ยงหอยปัง หอยขมเป็นอาชีพเสริม รวมถึงเลี้ยงกุ้งก้ามแดง ปูนาด้วย
          โดยใช้พื้นที่รอบบ้านวางวงบ่อซีเมนต์ (เส้นผ่านศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร) จำนวน 14 บ่อ เพื่อเลี้ยงหอยปังและหอยขม และมีบ่อปูนแบ่งครึ่งกับกุ้งก้ามแดง ขนาดบ่อ 2x2 เมตร อีก 1 บ่อ เมื่อซื้อวงบ่อซีเมนต์มาแล้วให้แช่ด้วยต้นกล้วยทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ จากนั้นล้างออกใช้แปรงถูจนสะอาด แล้วเปิดน้ำลงไปประมาณครึ่งบ่อ ใส่เกลือลงไป 1 ช้อนชา เพื่อปรับค่าของน้ำให้เป็นกลาง 
          พร้อมกับใส่แร่ธาตุรวมลงไป 1 ช้อนโต๊ะ เพราะปกติในดินจะมีแร่ธาตุธรรมชาติแต่ในบ่อปูนจะไม่มี ต้องซื้อธาตุรวมใส่ให้ด้วย (มีจำหน่ายตามเพจที่จำหน่ายกุ้งก้ามแดง) ทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน (การใส่แร่ธาตุจะช่วยให้หอยปังตัวใหญ่สมบูรณ์) จากนั้นใส่จอก แหน ผักบุ้งลงไป โดยอย่าลืมใส่ดินลงไปในกระถางเก่าๆ กระถางแตกก็ได้ แล้วเอาไปวางไว้ในบ่อเพื่อให้หอยปังขึ้นมาวางไข่   

สารพัดวิชาเทพเลี้ยงหอยปังแบบเซียน
            เมื่อเตรียมบ่อเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว คุณจูเพิ่มเติมในส่วนของแนวทางการเลี้ยงในแบบของเธอว่า ได้เก็บหอยขมมาจากดินในน้ำ ส่วนหอยปังจะลอยอยู่บนน้ำตามลำห้วย รอจนบ่อที่เตรียมไว้พร้อมใส่หอยปังลงไปประมาณ 20 ตัว/วงบ่อ โดยใช้น้ำประปาใส่ลงไปเกือบครึ่งบ่อ ที่สำคัญควรเปลี่ยนน้ำเดือนละ 1 ครั้ง หรือเมื่อน้ำเริ่ม จากนั้นฉีดน้ำไล่ดิน ของเสียต่างๆ ออกให้หมดก่อนใส่น้ำใหม่ลงไป เติมเกลือและใส่แร่ธาตุรวมเหมือนเดิม ส่วนอาหารสำหรับที่นี่ให้เป็นอาหารสำเร็จรูปของปลาดุกเม็ดเล็ก ใบมะละกอใส่ทั้งใบ (หอยปังชอบมาก) ไม่ควรให้บ่อยเพราะน้ำจะเสียเร็ว และเมื่อเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ หอยปังที่ไข่จะต้องมีอีกตัวมาประกบคู่อยู่ด้วยกันสักพัก แล้วอีกตัวก็จะขึ้นไปวางไข่ทันที     


หอยปังราคาดี กิโลฯ ละ 100 บาท
            คุณจูเสริมเรื่องตลาดด้วยว่า มีคนสนใจซื้อหอยปังจำนวนมาก ซึ่งนิยมนำไปทำเป็น “ก้อย” เนื้อจะนิ่มหนึบ ราคาทั่วไปสำหรับพ่อแม่พันธุ์คู่ละ 50 บาท ส่วนจำหน่ายแบบเป็นกิโลกรัมๆ 100 บาท แต่ที่นี่ยังไม่ได้จำหน่ายเพราะอยากขยายพันธุ์ให้ได้จำนวนมากก่อน ส่วนหอยขมกิโลกรัมละ 20 บาท (ช่วงปลายปีหาง่าย) เมื่อเข้าฤดูฝนแล้วราคาจะแพงขึ้นประมาณกิโลกรัมละ 50 บาท
          “ตลาดหอยปังสำหรับเราคิดว่าน่าจะขายได้เรื่อยๆ เพราะยังไงคนก็กินตลอด หรือเอาไปเลี้ยงต่อก็มีเยอะ จริงๆ เราอยากจะอนุรักษ์พันธุ์เพราะสูญพันธุ์เยอะ แล้วเจอแต่สารเคมี ถ้าเลี้ยงเองจะดีกว่า อาหารเราก็เลือกให้หอยกินเอง เวลาเอามาบริโภคก็ปลอดภัยด้วยค่ะ” คุณจูทิ้งท้าย
          อบถามเพิ่มเติมได้ที่ “คุณพัชรนันท์ ขาวงาม”  เลขที่  104/1  หมู่  2  ต.ตากูก  อ.เขวาสินรินทร์  จ.สุรินทร์  32000  โทร.084-303-2770  เพจ : ณดลฟาร์ม หอยปัง หอยขม ปูนา กุ้งก้ามแดง 

cr. http://kaset.nakaintermedia.com/2018-03-28.html

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ไปดูการเลี้ยงปลาบึกด้วยเศษอาหาร ต้นทุนต่ำ ได้กำไรสูง ที่ลำลูกกา

การเพาะพันธุ์ปลาดุก ไม่ยากอย่างที่คิด!

การเพาะพันธุ์ปลาสวาย